ภารกิจล่าช้างเผือก : นานแค่ไหนแล้ว....ที่เราไม่ได้เห็นดาวตก

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะคะว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ 2 ของเจ้าของกระทู้ (ยังใหม่มากจริงๆ)
และที่สำคัญความรู้เรื่องการถ่ายภาพเนี่ยเท่ากับศูนย์ เพราะฉะนั้นกรุณาอย่าคาดหวัง 555หัวเราะ

ขอท้าวความของจุดเริ่มการล่าช้าง (เผือก) ก่อนนะคะ
ภารกิจนี้เกิดจากครั้งก่อนเจ้าของกระทู้ไปพักที่เกาะพยามจ.ระนอง ช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
โดยหลังจากกินดื่มกันอย่างสนุกสนานนั้น เราก็บังเอิญเห็นดาวระยิบระยับสวยงาม คุณแฟนก็เอะใจและบอกว่านั่นใช่ทางช้างเผือกไหมนะ
ไอ้เราก็ไม่รู้หรอกค่ะ บอกตรงๆ เคยได้ยินตอนที่ดูโกโบริ แฮ่! เม่าเหม่อ
ความรู้รอบตัวน้อยมาก ยิ่งเรื่องดาวไม่ต้องพูดถึง รู้แต่ว่ามันสวยงามจับใจ
ทันใดนั้นเพื่อนก็หยิบมือถือมาแล้วเปิดแอพ Star Chart อู้หูย บอกหมดว่าดาวไหนชื่ออะไร แถมมีเป็นรูปล่างให้ดั๊วยะ
หลังจากทริปนั้น เจ้าช้างตัวใหญ่ก็ได้ตราตรึงใจตลอดมา ฟิน

เมื่อกลับมาบ้าน เราก็ได้ทำการศึกษาเจ้าช้างตัวใหญ่มาอยู่เรื่อยๆ แล้วก็ได้เห็นภาพของเจ้าช้างเผือกเชือกนี้ตามกระทู้พันทิปมาเป็นระยะๆ
และอยู่ๆ......ทริปไฟไหม้ก็เกิดขึ้น !!!!
ระหว่างที่เรานั่งทำงานอยู่ คุณแฟนก็ไลน์มาหา ชวนออกทริปล่าช้างกันคืนวันนั้นเลย
ไอ้เราก็ใจง่าย ไปก็ไป !

เราเลิกงานรีบเก็บของออกจากบ้านรีบหยิบกล้อง ขาตั้งกล้อง และเหน็บเอาเต้นท์พร้อมที่นอนไปด้วยอย่างรวดเร็ว
จุดมุ่งหมายคือ อุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

ผานี้ไปยังไงไม่รู้ ให้ Google Map นำทาง, ไปถึงจะเห็นช้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่วันนั้นเป็นคืนเดือนมืด (10 เม.ย.59)
แล้วเราจะนอนไหนก็ไม่รู้ แต่เอาเต้นท์ไปอุ่นใจได้หน่อยนึง กางเต้นท์รอ

ขับรถหลงไปหลงมาหน่อยนึง ไปถึงก็ประมาณเที่ยงคืนได้
ระหว่างทางคือมืดมากกกกกก น่ากลัวมากกกก แต่ยิ่งมืดยิ่งเห็นดาวชัดมันยิ่งทำให้ตื่นเต้น
ไปถึงเจอทางเข้าเจ้าหน้าที่หลับอยู่ที่ป้อม เค้าเปิดให้เข้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่บอกว่าไม่มีคนเลยนะครับ 555
เรารีบเข้าไปไม่รอช้า เพราะเราเริ่มเห็นเจ้าช้างด้วยตาเปล่าซะแล้วสิ่
ความตื่นเต้นจนลืมความเหนื่อยล้าจากการทำงาน และความง่วง มันเป็นยังงี้นี่เอง
ประหลาดใจประหลาดใจประหลาดใจ

ไปถึงเรารีบหยิบเจ้ากล้อง Canon 70D (ยืมเค้ามา) ขึ้นมาตั้งกับขาตั้งกล้อง
โดยปรับ Speed Shutter ไปที่ 30, F2.8, iso3200 ปรับเปลี่ยนค่า White Balance ไปเรื่อยๆ
ค่าพวกนี้คือดูๆเค้าบอกมาอีกทีค่ะ อย่างที่บอกความรู้เท่ากับศูนย์ เพราะเคยเรียนถ่ายภาพมาเมื่อ 13-14 ปีที่แล้ว
และไม่ได้จับกล้องอีกเลย
(จะบอกว่าตั้งแต่สมัยกล้องฟิล์ม ก็กลัวคนบางคนอ่านแล้วงง ฟิล์มคืออะไร 555) ผมจะไม่ยุ่ง

หลังจากตั้งระบบทุกอย่างเสร็จกำลังจะถ่าย....ปัญหาเกิด......
มึนตึ๊บ
คือเราหาโฟกัสไม่ได้ ไม่รู้จะปรับยังไง กล้องก็ไม่คุ้นมือ (ใช้ยังไม่ค่อยจะเป็น)
แล้วก็ไม่ได้หามาว่าต้องจับโฟกัสยังไงด้วยสิ่ถึงเวลานั้นถ่ายไว้ก่อน ก่อนที่ช้างจะหาย
เพราะได้ยินเค้าขู่กันมาว่าช้างมักจะหายไปอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวเมฆมาบัง เดี๋ยวฝนตกอะไรเทือกนี้
ณ จุดนี้ลองถ่ายไปก่อนค่ะ

ถ่ายไปอย่างสนุกสนาน ระหว่างถ่ายเราก็เห็นดาวตกเป็นระยะๆ สวยงามมาก มากจนน้ำตาจะไหล
และนี่คือภาพที่ได้ค่ะ มันจะเบลอๆเพราะเราโฟกัสมั่วมาก บิดไปเรื่อย บิดเอามัน 555




และในขณะที่เราถ่ายรูปเจ้าช้างกันอยู่ก็มีรถมาอีกคันมาจอดนอนกัน
เลยทำให้มีภาพๆนี้ค่ะ



และภาพนี้เราถ่ายตอนฟ้าเริ่มจะเช้าแล้วค่ะ



เรียกว่าตื่นเต้นจนหายง่วงไปเลยทีเดียว เราถ่ายรูปกันยาวยันเช้า
เราตกลงกับแฟนว่าจะไม่กางเต้นท์ เพราะคงนอนได้ไม่นานเดี๋ยวอากาศคงร้อน
(ลืมบอกว่าตอนที่ไปถึงอากาศเย็นประมาณ 24-26 องศา และมีน้ำค้าง ลมพัดแรงมาก เย็นสบายมากค่ะ)
เรางีบหลับไปหน่อยนึงโดยไม่ได้กางเต้นท์และขับรถกลับกทม.เลยค่ะ
และนี่คือบรรยากาศตอนเช้าที่ตอนมาไม่ได้เห็นเพราะมันมืดมาก มืดจนเดินชนกัน 555






ก่อนกลับยังมีแรงแวะไร่สุวรรณอีกด้วย 555 ขากลับก็ผลัดกันหลับกะคุณแฟนจนถึงกทม.
กลับบ้านเปิดแอร์หลับเป็นตายค่ะ
ด้วยความที่หลงเจ้าช้างเชือกนี้แล้ว เราเลยสัญญาว่าจะกลับไปศึกษาการถ่ายเจ้าช้างให้ดีกว่านี้ (งานนี้ไม่หมู)
เราเลยลงทุนซื้อกล้องเป็นของตัวเอง เป็นเจ้ากล้องน้องใหม่ล่าสุดจากค่าย Sony นั่นก็คือเจ้า A6300 และเลนส์ Fix 2.8/20
พร้อมจัดทริปแก้ตัวอีกรอบ
เจอกันนะน่าน.........ในวันคืนเดือนมืด

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่